ตอนที่ ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เปิดตัว Microsoft Surface RT มาเมื่อสองปีก่อน ผมก็เป็นคนนึงที่สอยมาลองเล่นตั้งแต่มันออกมาวันแรกๆ เลยล่ะครับ และจากที่ได้ลองเล่นแบบจริงจัง ก็เปรยๆ ออกมาผ่าน Social media ว่า “ถ้าจะให้น่าซื้อมาใช้จริงๆ ต้องรอประมาณรุ่นที่ 3 หรือรุ่นที่ 4 ล่ะ” และตอนนี้ รุ่นที่ 3 ของ Microsoft Surface ก็มาแล้ว นั่นคือ Microsoft Surface Pro 3 นั่นเอง และด้วยความเอื้อเฟื้อจากไมโครซอฟต์ประเทศไทย ผมก็เลยได้ Microsoft Surface Pro 3 รุ่นที่เป็น Core i5 แรม 8GB มี SSD ความจุ 256GB มาใช้ราวๆ สองสัปดาห์ครับ และ ณ ช่วงที่เขียนบล็อกนี้อยู่ก็ผ่านมาได้แล้ว 1 สัปดาห์ ก็เลยคิดว่าน่าจะเขียนถึงให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันสักหน่อยครับว่าเจ้านี่ เป็นยังไงบ้าง
Microsoft Surface Pro 3 … Laptop ที่ไม่ได้มาพร้อมกับ Keyboard
สโลแกน
ของ Microsoft Surface Pro 3 ที่ทาง Microsoft ให้มาก็คือ “The tablet that
can replace your laptop” หรือแปลเป็นไทยก็คือ
“แท็บเล็ตที่สามารถมาแทนเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของคุณได้” นั่นเอง
และเพราะเหตุนั้นละมั้ง Microsoft เลยยังคงจงใจวางจำหน่าย Microsoft
Surface Pro 3 แยกกับ Keyboard เหมือนเดิม และให้ Keyboard (งวดนี้เป็น
Type cover) เป็นแค่อุปกรณ์เสริมมาในสนนราคา 4,490 บาท
ทว่าโดยความเห็นส่วนตัวของผมแล้ว การจะใช้ Microsoft Surface Pro 3
(หรือรุ่นใดๆ ก่อนหน้า) ให้ได้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดจริงๆ จะต้องมี
Keyboard ครับ จะเป็น Keyboard คอมพิวเตอร์แบบปกติก็ได้
เพียงแต่เวลาจะพกไปใช้งานนอกสถานที่มันจะพกลำบากเอาเรื่อง … สุดท้าย
การเลือกซื้อ Keyboard cover ของ Microsoft จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า … และ
Microsoft เดินเกมแตกต่างจาก Apple
ที่ออกแบบตัวเครื่องให้มีชุดแม่เหล็กเอาไว้ใช้กับ Smart Cover ของตน
ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริม ทำพวก Wireless keyboard
มาใช้งานแบบสองหน้าที่ คือ เป็นทั้ง Cover ก็ได้ เป็นทั้ง Keyboard ก็ได้ …
แต่ Microsoft นั้น แทบไม่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมทำ Keyboard
cover แจ่มๆ มาใช้คู่กับ Microsoft Surface Pro 3 เลย
ฉะนั้น ถ้าเชื่อผมนะ หากใครอยากซื้อ Microsoft Surface Pro 3 และใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุดละก็ ไม่ว่าคุณกำลังเล็งรุ่นไหนราคาเท่าไหร่อยู่ ขอให้บวก 4,490 บาทเอาไว้เสมอ เป็นค่า Type cover ครับ
สเปกของ Microsoft Surface Pro 3
Microsoft Surface Pro 3 มีให้เลือกกัน 5 รุ่นครับ แตกต่างกันที่ตัว CPU ที่ใช้ ปริมาณหน่วยความจำ และความจุของฮาร์ดดิสก์ (เป็น Solid state drive หรือ SSD) ส่วนที่เหลือก็จะเป็นสเปกเหมือนๆ กันครับ ดังนี้
• CPU: มีให้เลือก 3 แบบ คือ
• Intel 4th Gen Core i3-4020Y 1.5GHz + Intel HD Graphics HD4200
• Intel 4th Gen Core i5-4300U สูงสุด 2.5GHz + Intel HD Graphics HD4400
• Intel 4th Gen Core i7-4650U สูงสุด 3.3GHz + Intel HD Graphics HD5000
• หน้าจอแสดงผล: Clear Type Full HD Plus 12 นิ้ว อัตราส่วนการแสดงผล 3:2 ความละเอียด 2160×1440 พิกเซล
• หน่วยความจำ และความจุ SSD แตกต่างไปตามรุ่นดังนี้
• Core i3 หน่วยความจำ 4GB มี SSD ความจุ 64GB
• Core i5 หน่วยความจำ 4GB มี SSD ความจุ 128GB
• Core i5 หน่วยความจำ 8GB มี SSD ความจุ 256GB
• Core i7 หน่วยความจำ 8GB มี SSD ความจุ 256GB
• Core i7 หน่วยความจำ 8GB มี SSD ความจุ 512GB
• กล้องดิจิตอล: ด้านหน้า 5 ล้านพิกเซล ด้านหลัง 5 ล้านพิกเซล
• การเชื่อมต่อเครือข่าย:
• WiFi 802.11a/b/g/n/ac
• Bluetooth 4.0
• พอร์ตการเชื่อมต่อ:
• USB 3.0 1 พอร์ต
• MicroSD card reader
• ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
• Mini DisplayPOrt
• Cover Port
• ระบบปฏิบัติการ: Windows 8.1 Pro
• Dimensions: 292.1 มม. x 201.4 มม. x 9.1 มม.
• น้ำหนัก: 798 กรัม (1,093 กรัม เมื่อรวม Type cover)
• อื่นๆ: Surface Pen
พิจารณา จากแง่ของสเปกแล้ว เรียกว่าให้มาไม่ขี้เหร่เลย … ที่น่าสนใจคือ Microsoft เลือกให้มีรุ่น Core i3 ไว้สำหรับผู้ที่เริ่มใช้งาน เป็น Entry level ที่พยายามกดราคาให้ต่ำที่สุด แต่ในความเห็นส่วนตัวของผม หากจะเลือกซื้อมาใช้จริงๆ ขอแนะนำให้เลือกเป็น Core i5 แรม 4GB ความจุ 128GB เป็นขั้นต่ำไว้ดีกว่าครับ
review
(ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/454316)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น