วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วิธีที่ทำให้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ของคุณเพิ่มมากขึ้น

วิธีที่ทำให้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ของคุณเพิ่มมากขึ้น
1.บีบอัดไฟล์งานของคุณ (ไฟล์ที่นานๆ ใช้ครั้งหรือไม่ใช้ แต่มันยังคงสำคัญยังคงเก็บเอาไว้อยู่) บีบอัดด้วยโปรแกรม Winzip หรือโปรแกรมอื่นๆ
2.ลบไฟล์ขยะทิ้ง ไฟล์ขยะจะมีนามสกุลเป็น .bmp ทิ้ง มันเกิด ขึ้นได้เสมอที่ ไฟฟ้าดับกระทันหัน โปรแกรมเกิดขัดข้อง หรือหยุดทำงานไปเฉยๆ การเซฟไฟล์งานนานผิดปกติ เราสามารถลบไฟล์ขยะได้โดย คลิ๊กปุ่ม Start คลิ๊ก Run พิมพ์ว่า temp ลงในช่อง Open กดปุ่ม Enter หรือคลิ๊กปุ่ม OK ก็ได้ ให้ลบทิ้งให้หมดเลยนะครับ
เพียงเท่านี้พื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ของคุณก็จะเพิ่มขึ้นมา

(ที่มา: http://www.zabzaa.com/tips/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99/)

วิธีง่ายๆสำหรับการดู IP ADDRESS ของเครื่องคอมพิวเตอร์


สำหรับใครที่ใช้ Windows:9x, Me
โดยคลิ๊กที่ Start เลือก Run พิมพ์ลงช่อง Open ว่า winipcfg แล้วกดปุ่ม OK หรือ Enter คอมพิวเตอร์ก็จะแสดง IP Address ของเครื่องครับ
สำหรับใครใช้ Windows:XP
ให้ท่านเข้าไปที่ Start เลือก Run แล้วพิมพ์ว่า cmd /k ipconfig ก็จะดูได้แน่นอนนะครับ

(ที่มา: http://www.zabzaa.com/tips/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%86%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B9-ip-address-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1/)



10 วิธีช่วยเพิ่มสัญญาน WIFI ให้แรงขึ้น

               ปัญหา Wi-Fi ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณอ่อน อินเตอร์เน็ตช้า สัญญาณล่มบ้างละ ปัญหาอื่นๆ อีกต่างๆ นาๆ ทำให้ส่งผลต่อการทำงาน เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง วันนี้จะมานำเสนอวิธีที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสัญญาณ Wi-Fi ให้แรงขึ้นได้เราไปดูกันกันเลย
1.ปิดพัก ROUTER บ้าง
               การเปิดทำงานข้ามวันข้ามคืนอย่างหนัก เปิดตลอดไม่ได้ปิดเลย ก็ส่งผลให้อืดได้เช่นกัน เหมือนกับคอมพิวเตอร์ทั่วไปนั่นแหละ ฉะนั้นก็ควรจะปิดให้มันได้พักผ่อนซะบ้าง ปิดหลังจากที่ไม่ได้ใช้ เวลาจะใช้ก็ค่อยเปิดใหม่
2.หาเราเตอร์อีกตัวมาช่วยกระจายสัญญาณ
               หากบ้านใครกว้างมากๆ ตัวปล่อยสัญญาณตัวเดียวคงไม่ทั่วถึงแน่ๆ ลองหาตัวช่วยย้ำสัญญาณ ทวนสัญญาน หรือช่วยกระจายสัญญาณ (Access Point) มาทำหน้าที่เป็น repeater ส่งต่อสัญญาณให้ทั่วทั้งบ้าน
3.ใช้อุปกรณ์เร่งสัญญาณ
               ในเราเตอร์บางรุ่น สามารถใช้เฟิร์มแวร์เสริมความแรงได้ อย่างเช่นจำพวก DD-WRT, Tomato ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเราเตอร์ สามารถเร่งความเร็วชิปให้เพิ่มขึ้นได้ หรือเปลี่ยนไปเสาส่งสัญญานแรงๆ เสาสูงๆ

4.ใช้กระป๋องเบียร์ช่วย
               วิธีการก็คือตัดกระป๋องเบียร์แผ่ออกให้เหมือนในรูป หรือกระป๋องอะไรก็ได้ จะช่วยบังทิศทางของสัญญาณได้ วิธีนี้ได้ผลเช่นกัน
5.จัดการกับแบนด์วิดธ์
               ในตัวปล่อยสัญญาณบางรุ่นจะมีระบบจัดการแบนด์วิดธ์มาให้ สามารถกำหนดความเร็วให้เหลือนิดเดียวสำหรับพวกโหลดบิทหรือเล่นเกมออนไลน์ได้ คนอื่นก็จะได้ใช้อย่างสบายใจ
6.ใช้ระบบการรักษาความปลอดภัยที่สูงที่สุด ป้องกันคนมาขโมยเล่น
               ถึงจะมีการตั้งรหัสผ่านไว้ป้องกันคนอื่นมาแย่งเล่นฟรีๆ ไว้แล้ว ยังไง ก็ต้องมีคนพยายาม Hack เข้ามาเล่นให้ได้อยู่ดี ฉะนั้นควรเลือกใช้ระบบการเข้ารหัสที่ดีที่สุด จำพวก WEP, WPA เป็นต้น และก็ควรตั้งรหัสยากๆ เข้าไว้ อย่างเช่นการผสมตัวอักษรและตัวเลข ตัวพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่ การใส่อักขระพิเศษ และที่สำคัญคือการเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ
7.วางไว้ห่างจากโทรศัพท์บ้าน
               คลื่นความถี่ที่ตัวปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็น 2.4 GHz เป็นคลื่นเดียวกันกับโทรศัพท์บ้านเลย ถ้าวางไว้ใกล้ๆ กันก็อาจจะรบกวนสัญญาณกันได้
8.เคลียร์ช่องสัญญาณให้ว่างมากที่สุด
               รถเยอะ การจราจรก็ติดขัด Wi-Fi ก็เป็นเหมือนกัน คนใช้เยอะก็ต้องแย่งสัญาณกันใช้ วิธีการง่ายๆ ก็คือตั้งรหัสผ่านไว้ซะ ป้องกันคนแย่งใช้ หรือหากเป็นสัญญาณที่แชร์กันหลายๆ ช่อง ก็ลองเปลี่ยนไปใช้สัญญาณของช่องอื่นๆ ก็ได้
9.เลือกวาง ROUTER ไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม
               อีกปัญหาใหญ่หลวงของสัญญาณหายหรือสัญญาณไม่แรง ก็คือจุดปล่อยคลื่นเป็นมุมอับ กระจายสัญญาณได้ไม่ดี ลองย้ายเปลี่ยนตำแหน่งดูบ้าง วางไว้ในที่ๆ กว้างซักหน่อย การกระจายของสัญญาณก็จะทั่วถึงมากขึ้น
10.เลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
              แน่นอนว่าของใหม่ล่าสุดย่อมดีกว่าของเก่าเป็นธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค สมาร์ทโฟน หรือแม้ตัวส่งสัญญาณ Wi-Fi ก็ตาม ฉะนั้น ก็ควรจะเปลี่ยนตัวปล่อยสัญญาณตามกาลเวลาบ้าง

(ที่มา : http://www.zabzaa.com/tips/10-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93-wi-fi-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99/)


30 เทคนิคเล็กๆน้อยๆในการใช้คอมพิวเตอร์

  • ในขณะที่คุณกำลังจะ Restart เครื่องใหม่ ก่อนที่จะกดปุ่ม OK ให้คุณกด Shift ค้างไว้ จะทำให้คุณ Restart ได้เร็วขึ้น

  • ในบาง Web Site หากคุณกด Ctrl ค้างไว้ และเลื่อน Scroll ที่ Mouse จะทำให้ตัวอักษรของ Web Site นั้นใหญ่ขึ้น

  • หากกดปุ่ม Refresh หรือ F5 แล้วยังเป็นข้อมูลเดิม ลองกด Ctrl + F5 รับรองจะได้ข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดแน่ๆ

  • คุณสามารถเปิดไฟล์ Tips.txt ขึ้นมาเพื่ออ่านเทคนิคต่างๆ ได้ ซึ่งไฟล์นี้จะอยู่ใน c:\windows ของคุณ

  • ในระหว่างที่คุณกำหลังใช้งาน IE อยู่นั้น สามารถกดปุ่ม F4 เพื่อเป็นการเปิดดู URL List ในช่อง Address ได้เลย

  • การกดปุ่ม Esc ระหว่างการใช้ IE จะทำให้ IE ของคุณนั้นหยุดโหลดได้ โดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม Stop

  • ระหว่างการใช้ IE สามารถกดปุ่ม Alt + D หรือ Ctrl + Tab เพื่อเข้า Address bar อย่างเร็วได้

  • คุณสามารถเพิ่มความเร็วให้กับ Internet ได้โดยทำการถอดสายเครื่องโทรศัพท์ ที่มีการต่อพ่วงอยู่กับสายที่ใช้ต่อ Internet ออก

  • คุณสามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า welcome กด Enter เพื่อเปิดหน้าต่างต้อนรับของ Windows ได้

  • ที่ Notepad หรือ ICQ หากคุณลืมเปลี่ยน Mode ภาษา ให้กดปุ่ม Ctrl + Back Space เพื่อแก้คำที่พิมพ์ผิดไปแล้ว

  • คุณสามารถ เปิด Folder Desktop อย่างรวดเร็ว โดย Start -> Run พิมพ์จุด (.) ลงไปแล้วกด Enter

  • ใน IE สามารถกด Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้า Page ลงได้ ส่วนเลื่อนขึ้นคือ Shift + Space Bar

  • ใน Windows คุณไม่สามารถ สร้าง Folder ที่ชื่อ "con" ได้

  • ใน IE ที่ช่อง Address ปุ่ม Ctrl+Enter สามารถช่วยคุณพิมพ์ URL ได้เร็วยิ่งขึ้น

  • การกด Ctrl ค้างเอาไว้ ตอนเวลา BOOT เครื่อง จะทำให้คุณไม่พลาด Startup Menu

  • คุณสามารถปิดนาฬิกาที่ Taskbar ได้ โดยคลิกขวาที่ Task bar > Properties > เอาเครื่องหมาย Show Click ออก

  • หากคุณกด F11 ใน Windows Explorer จะช่วยให้มีการทำงานที่สะดวกขึ้น

  • ใน ICQ การส่ง Message หากคุณกด Ctrl+Enter จะสะดวก กว่าการ Click Mouse ที่ปุ่ม send

  • คุณสามารถกด F2 เพื่อ ใช้ในการเปลี่ยนชื่อ Icon ต่างๆ ได้

  • การกด F5 ใน NotePad จะเป็นการแทรก เวลา และวันที่ ปัจจุบัน

  • การกด Windows + E จะเป็นเปิด Windows Explorer ขึ้นมา

  • เปิด System Properties อย่างรวดเร็วคือการกด Window + Pause Break

  • การย่อยทุกๆ หน้าต่างที่เปิดใช้งาน ให้ยุบไปให้หมด คือการกด Window + D ถ้าจะขยายคืนมาอีก ให้กดซ้ำ

  • การเคาะวรรคในโปรแกรม Dreamweaver คือ Shift + Ctrl + Space Bar ส่วนการเว้นบรรทัดคือ Shift + Enter

  • การลบไฟล์แบบ ไม่เก็บไว้ใน Recycle Bin คือการกด Shift + Delete

  • การกด Shift ค้างไว้ เวลาใส่แผ่น CD-Rom จะเป็นการไม่ให้มันเปิด Autorun ของแผ่น CD-Rom นั้นขึ้นมา

  • การ Restart เครื่องอย่างเร็ว คือไปที่ Start -> Shut Down... -> Restart จากนั้น ก่อนที่จะ OK ให้กด Shift ค้างเอาไว้

  • ในระหว่างใช้ Browser คุณสามารถกดปุ่ม Space Bar เพื่อเลื่อนหน้าลง และ Shift + Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้าขึ้นได้

  • กด Shift + คลิก จะเป็นการเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่ โดยไม่ต้อง back กลับ

  • คุณสามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า hwinfo /ui กด Enter เพื่อดูรายงานต่างๆ ของ HardWare


(ที่มา : http://www.rimnam.com/%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94/phone-4/30-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2-%E0%B9%86-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B-165.html)

แนวทางการเขียนเกมส์ออนไลน์

1. ระบบอินเตอร์เน็ต
               สิ่งแรกก็คือ ระบบอินเตอร์เน็ต เนื่องจากเกมออนไลน์จะต้องใช้ TCP/IP เป็นโปรโตคอลในการสื่อสาร ดังนั้น เครื่องทุกเครื่องที่อยู่บนอินเตอร์เน็ตจึงสามารถเข้าสู่เกมออนไลน์ได้ หรือถ้าลองมองให้แคบลงมาในระบบอินทราเน็ต ก็สามารถสร้างเกมออนไลน์ได้เช่นกัน เพราะใช้ TCP/IP ในการสื่อสารเหมือนกัน
2. ระบบ Game Server
                    ในระบบเกมออนไลน์ควรจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ชุดหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็น Game Server ซึ่งอาจจะมีมากกว่า 1 เครื่องก็ได้ และ Game Server นี้ จะต้องเชื่อมต่ออยู่กับระบบเครือข่ายด้วย เช่น อินเตอร์เน็ตหรืออินทราเน็ต เนื่องจากเกมออนไลน์จำเป็นจะต้องเก็บข้อมูลของผู้เล่น สถานะของผู้เล่น และจะต้องเก็บข้อมูลเกมด้วย ดังนั้น ใน Game Server ก็จะต้องมีซอฟต์แวร์ประเภทระบบฐานข้อมูล (DBMS) เช่น Oracle, SQL Server, mySQL ฯลฯ เป็นฐานข้อมูลสำหรับเกม และมีระบบลงทะเบียนผ่านทางหน้าเว็บ (Web-based Registration) สำหรับผู้เล่นคนใหม่ที่จะมาสมัครเล่นเกม หรือดาวน์โหลดเกมอีกด้วย
3. เกม Client และคอมพิวเตอร์ของผู้เล่นเกม
                    สำหรับเครื่องของผู้เล่นนั้น จะเป็นเครื่องที่ติดตั้งเกมออนไลน์เอาไว้ และใช้ในการเล่นเกม ซึ่งเครื่องนี้จะต้องเชื่อมต่ออยู่กับระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตโดยวิธีใดวิธีหนึ่ง เช่น โมเด็ม, Leased Line เป็นต้น ผู้เล่นจะต้องดาวน์โหลดเกมผ่านทางเว็บไซต์ที่บริการเกมออนไลน์และลงทะเบียนก่อน จากนั้นจึงใช้รหัสผู้เล่นนี้ในการเข้าสู่เกมต่อไป ลองพิจารณารูปต่อไปนี้ เพื่อความเข้าใจของส่วนประกอบของเกมออนไลน์มากขึ้นส่วนที่เป็น Server Side (ก็คือทางฝั่ง Server) จะต้องมีคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งทำหน้าที่เป็น Web Server ที่คอยให้บริการดาวน์โหลดเกมและรับลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บ และเก็บข้อมูลลงในฐานข้อมูล (DBMS) เอาไว้ โดยหมายเลขพอร์ตที่ให้บริการเว็บก็คือ 80 ซึ่งเป็นพอร์ตที่ใช้งานโปรโตคอล HTTP อยู่แล้ว
และระบบก็จะมี Game Server ที่เปิดพอร์ตรอการเชื่อมต่อเอาไว้ เมื่อผู้เล่นเกมเปิดโปรแกรมเกม โปรแกรมก็จะเชื่อมต่อเข้ามาที่ Game Server ผ่านทางพอร์ตของเกม เช่น พอร์ตหมายเลข 6666 ซึ่งหมายเลขพอร์ตนี้ไม่จำเป็นต้องให้ผู้เล่นทราบก็ได้ เป็นที่รู้กันเองระหว่าง Game Server กับโปรแกรมเกมว่าจะต้องเชื่อมต่อกันที่พอร์ตนี้ จากนั้นก็จะเข้าสู่การตรวจ ID และรหัสผ่านที่ได้จากการลงทะเบียน ถ้าถูกต้อง Game Server ก็จะส่งสัญญาณกลับไปยังโปรแกรมเกมเพื่อเริ่มเล่นเกมต่อไป
4.ภาษาที่ใช้ในการพัฒนาเกมส์ 
               ภาษาที่จะได้ในการสร้างเกมส์คอมพิวเตอร์ก็จะมีอยู่ด้วยกันหลายภาษา แต่ภาษาที่ใช้เขียนเกมส์ออนไลน์ส่วนใหญ่จะเป็นภาษา C/C++ ที่เข้าถึงการเชื่อมต่อเน็ตเวริกได้ง่าย รวมทั้งจัดการกราฟฟิกต่างๆได้อย่างลงตัว ปัจจุบันมีผู้ออกแบบพัฒนา Engine ให้ใช้ในการเขียนเกมส์เป็นจำนวนมาก และตัวหนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำก็คือ CDX ใช้ในการเขียนเกมส์แบบเน็ตเวริกได้ง่าย



(ที่มา : http://www.moe.go.th/moe/th/blog/view-blog.php?memberid=318&blogid=115)

คอมพิวเตอร์กราฟิกคืออะไร


ความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟิก
        กราฟิก หมายถึง  ศิลปะ  แขนงหนึ่งที่ใช้การสื่อความหมายด้วยเส้น  สัญลักษณ์  รูปวาด ภาพถ่าย กราฟ แผนภูมิ การ์ตูน เป็นต้น เพื่อให้สามารถสื่อความหมายของข้อมูลได้ถูกต้องตรงตามที่ผู้รับสารต้องการอยากให้เป็น
           คอมพิวเตอร์กราฟิก หมายถึง การสร้าง การตกแต่งแก้ไข หรือการจัดการเกี่ยวกับรูปภาพ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการจัดการ เช่น การทำตกแต่งภาพที่เรียกว่า ภาพคนแก่ ให้มีวัยที่เด็กขึ้น การใช้ภาพกราฟิกในการนำเสนอข้อมูลต่างๆ มากมาย

ความเป็นมาของคอมพิวเตอร์กราฟิก
       ในปี ค.ศ. 1940 คอมพิวเตอร์จะแสดงภาพกราฟิกโดยใช้เครื่องพิมพ์ โดยรูปภาพที่ได้จะเป็นภาพที่เกิดจากการใช้ตัวอักษรมาประกอบกัน ในปี ค.ศ. 1950 สถาบันเทคโนโลยีแห่ง “แมสซาซูเซสต์” ได้พัฒนาคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีหลอดภาพ เป็นส่วนแสดงผลแทนเครื่องพิมพ์เนื่องจากมีความต้องการที่จะให้การติดต่อระหว่างผู้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์มีความเร็วยิ่งขึ้น ในปี ค.ศ. 1950 ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาสามารถแปลงสัญญาณจากเรดาร์ ให้เป็นภาพบนจอได้ ระบบนี้เป็นระบบกราฟิก เครื่องแรกที่ใช้ปากกาแสง Light Pen : เป็นอุปกรณ์สำหรับรับข้อมูลชนิดหนึ่ง สำหรับการเลือกสัญลักษณ์ บนจอภาพได้ ในปี ค.ศ. 1950 – 1960 มีการทำวิจัยเรื่องเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมาก
    ต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบของระบบคอมพิวเตอร์กราฟิกสมัยใหม่ กลางปี ค.ศ.1970 เป็นช่วงเวลาที่อุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์เริ่มมีราคาลดลงมาก ทำให้ฮาร์ดแวร์ของระบบคอมพิวเตอร์กราฟิกมีราคาถูกลงตามไปด้วย ผู้ใช้ทั่วไปจึงสามารถนำมาใช้ในงานของตนได้ทำให้การใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกเริ่มแพร่หลายไปในงานด้านต่างๆ มากขึ้น สำหรับซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิกก็ได้มีการพัฒนาควบคู่มากับฮาร์ดแวร์เช่นกัน ซึ่งมีการเริ่มต้นจาก อีวาน ซูเธอร์แลนด์ ผู้ซึ่งได้ออกแบบวิธีการหลักๆ รวมทั้งโครงสร้างข้อมูลของระบบคอมพิวเตอร์ กราฟิก ต่อมาก็มี สตีเฟน คูน และ ปิแอร์ เบเซอร์ ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับการสร้างเส้นโค้งและภาพพื้นผิว ทำให้ปัจจุบันเราสามารถสร้างภาพ 3 มิติ ได้สมจริงสมจังมากขึ้น ในช่วง 10 ปีต่อมาได้มีการพัฒนาวิธีการสร้างภาพมากมายสำหรับใช้ในระบบคอมพิวเตอร์กราฟิก และปัจจุบันเราก็ได้เห็นผลงานที่สวยงามและแปลกตา ซึ่งเป็นผลจากการศึกษาวิจัยต่างๆ มากมายในอดีตที่ยาวนานนั้นเอง


(ที่มา : http://graphicdeesign.blogspot.com/2013/02/blog-post.html)

อาชีพโปรแกรมเมอร์

               ในยุคที่เทคโนโลยีได้รับการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว คงไม่มีใครปฏิเสธว่าสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้เข้ามาปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ให้มีความสะดวกสบายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 
               คอมพิวเตอร์ ก็เป็นอีกผลงานหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบัน เราใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการทำงานในออฟฟิส การจัดการเอกสาร การค้นหาข้อมูล หรือแม้กระทั่งการติดต่อสื่อสารกับคนที่อยู่ต่างสถานที่ในเวลาที่รวดเร็ว บุคคลผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผลงานเหล่านี้ คือ ผู้เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ โปรแกรมเมอร์ (Programmer) ที่บุกเบิกสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมขึ้นมา พวกเขาทำงานกันอย่างไร ต้องมีความรู้และคุณสมบัติอย่างไรเพื่อจะเป็นโปรแกรมเมอร์ วันนี้เรามาทราบกันครับ

ลักษณะการทำงานของนักโปรแกรมเมอร์ 
               โปรแกรมเมอร์ จะทำหน้าที่ นำข้อมูลการออกแบบรายละเอียดการวางโครงสร้างระบบคอมพิวเตอร์ จากนักวิเคราะห์ระบบงาน มาเขียนเป็นโปรแกรมต่าง ๆ ภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมจะแตกต่างกันไปตามลักษณะเครื่องของระบบฐานข้อมูล ทดสอบระบบและส่งให้นักวิเคราะห์ระบบทำการตรวจสอบอีกครั้งเพื่อหากจุดบกพร่องและแก้ไขก่อนนำไปใช้จริง 
โปรแกรมเมอร์ยังต้องทำหน้าที่ รับรายละเอียดของความต้องการของผู้ใช้ระบบ (User) จากนักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) จัดทำแผนภูมิ (Flowchart) ขั้นตอนการทำงานที่ละเอียด และถูกต้องตามหลักวิชา เพื่อประโยชน์ในการเขียนโปรแกรมสำหรับการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์แผนภูมิหรือแผนผังสายงาน แต่เพียงบางส่วนหรือทั้งหมด 

คุณสมบัติที่จำเป็นในการเป็นโปรแกรมเมอร์ 
• มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเข้ารับศึกษาได้ในสถานบันการศึกษาที่เรียนทำการสอนหรือ 
  สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีทางด้านคอมพิวเตอร์ 
• มีทักษะในการการเขียนภาษาคอมพิวเตอร์ 
• มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถประยุกต์และดัดแปลงความรู้ความสามารถทางด้านโปรแรกม
  คอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี 

ความก้าวหน้าในการประกอบอาชีพ 
               นักเขียนโปแกรมคอมพิวเตอร์สามารถเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นได้ หากมีความสามารถในการวิเคราะห์ระบบและมีทักษะในการสื่อสารและถ่ายทอดความรู้ที่ดี สามารถก้าวไปยังตำแหน่ง นักวิเคราะห์ระบบงานหรือตำแหน่งที่สูงขึ้นไปอีกก็ได้ หรืออาจจะหาอาชีพเสริมได้ด้วยการรับสอนภาษาคอมพิวเตอร์และรับเขียนโปรแกรมและวางระบบคอมพิวเตอร์ในหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ รับเขียนโปรแกรมสำเร็จรูป หรือจัดตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์ก็ได้ 

ความต้องการของตลาดแรงงาน 
               การพัฒนาศักยภาพทางคอมพิวเตอร์ยังสามารถขยายตัวไปได้อีกมาก จำนวนโปรแกรมเมอร์ที่มีอยู่ในปัจจุบันจึงยังไม่เพียงพอกับความต้องการขยายตลาดวงการไอที อาชีพนี้จึงยังมีแนวโน้มความต้องการในตลาดแรงงานค่อนข้างสูงและให้ผลตอบแทนสูง สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์และความสามารถมาก ดังนั้นโปรแกรมเมอร์จึงควรที่จะศึกษาหาความรู้เพิ่มขึ้นเพื่อนำมาปรับปรุงใช้ในงานและพัฒนาฝีมือให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น

(ที่มา : http://www.moe.go.th/moe/th/blog/view-blog.php?memberid=318&blogid=99)

วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Windows ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

       Windows ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

          หลายคนที่ยังไม่เคยรู้หรืออาจจำกันไม่ได้แล้วว่า Windows แต่ละรุ่นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันนั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอพาทุกท่านย้อนอดีตไปดูกันดีกว่าว่า Windows รุ่นเด่น ๆ ที่หลายคนรู้จักและบางคนอาจยังไม่เคยเห็นนั้นมีหน้าตาอย่างไรกันบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ


Windows 1.0


          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 1985 เป็น Windows รุ่นแรก ยังไม่ได้รับความนิยม โดยแรกเริ่มถูกเรียกว่า Interface Manager แต่สุดท้ายทางไมโครซอฟท์ก็เลือกที่จะใช้ชื่อ Windows แทนเนื่องจากเรียกและจดจำได้ง่ายกว่า






Windows 2.0

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 1987 เป็นการนำ Windows 1.0 มาพัฒนาใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม ได้รับความนิยมมากกว่ารุ่นแรก เริ่มมีนักพัฒนาหลายรายพัฒนาโปรแกรมสำหรับใช้บน Windows 2.0



Windows 3.0


  วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1990 ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จของ Windows ที่ได้รับความนิยมมากกว่ารุ่นก่อนหน้าค่อนข้างมาก รองรับ 16 สี อินเทอร์เฟซถูกพัฒนาให้มีสีสันดูน่าใช้งานมากกว่าเดิม และได้ออก Windows 3.1 ตามมาในปี 1992 ที่ทำให้ Windows กลายเป็นระบบปฏิบัติการที่คนใช้กับแพร่หลายมากที่สุด


Windows NT
       วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 1993 เป็นรุ่นที่พัฒนามาสำหรับใช้ในกลุ่มองค์กรและธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะ ซึ่งในภายหลังได้ออกรุ่นใหม่ ๆ มาในช่วงเดียวกับ Windows สำหรับใช้ในบ้าน













  
     
Windows 95

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 1995 ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดย Windows 95 รองรับสีแบบ 32 บิต และรองรับ Multitasking อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาขึั้นมา รวมทั้งการนำเสนอปุ่ม Start และ Taskbar เป็นครั้งแรก


 Windows 98

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 1998 เป็นรุ่นที่พัฒนามีให้เหมาะกับการใช้ทำงานและใช้เพื่อความบันเทิงในบ้าน อินเทอร์เฟซคล้ายกับ Windows 95 แต่มีสีสันมากกว่าเดิม พร้อมกับการมาครั้งแรกของแถบ Quick Launch สำหรับเปิดโปรแกรมอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเปิด Start Menu

   
Windows 2000 Professional

          วางจำหน่ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2000 เป็นรุ่นที่พัฒนามาด้วยโค้ดเคอร์เนลเดียวกับ Windows ตระกูล NT ออกแบบมาเพื่อใช้ในกลุ่มองค์กรหรือธุรกิจ มีการพัฒนาให้รองรับระบบเครือข่ายและมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น



Windows Me

          วางจำหน่ายเมื่อเดือนกันยายน 2000 ตัวย่อ Me ย่อมาจาก Millennium Edition เป็น Windows สำหรับใช้งานภายในบ้านรุ่นสุดท้ายที่จะใช้โค้ดเคอร์เนลแบบเดียวกับ Windows 95 และ 98 ในการพัฒนา มีการพัฒนาให้รองรับสื่อบันเทิงต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้รับความนิยมมากเท่า Windows 98






Windows XP

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2001 เป็น Windows รุ่นที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุด เนื่องจากอินเทอร์เฟซที่ถูกพัฒนาให้สวยงามกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างก้าวกระโดด ปุ่ม Start สีเขียว Taskbar สีฟ้าสดใส พร้อมทั้งระบบที่มีความเสถียรและปลอดภัย สามารถอัพเดทตัวเองได้ มีโปรแกรมรองรับมาก โดย Windows XP เป็นรุ่นที่แรกใช้โค้ดเคอร์เนลตระกูล NT พัฒนาออกมาทั้งรุ่น Home Edition สำหรับใช้ในบ้าน และ Professional สำหรับใช้ในธุรกิจ และออกเวอร์ชั่น 64 บิต ตามมาในปี 2005






Windows Vista

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2007 อินเทอร์เฟซที่ถูกเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยเน้นไปที่หน้าต่างแบบกึ่งโปร่งใส มองเห็นทะลุได้ ดูคล้ายกระจก ปุ่ม Start ถูกเป็นเปลี่ยนลูกแก้วโลโก้ Windows พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพด้านรักษาความปลอดภัยมากกว่าเดิม แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับ Windows XP






Windows 7

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2009 ยังคงใช้อินเทอร์เฟซแบบกึ่งโปร่งใสคล้ายกับ Windows Vista รองรับการใช้งานแบบระบบสัมผัสหน้าจอ พร้อมทั้งการมาของ Taskbar รูปแบบใหม่ที่แสดงเป็นไอคอนโปรแกรมขนาดใหญ่กว่าเดิม สามารถปักหมุดโปรแกรมที่ใช้เป็นประจำไว้บน Taskbar ได้ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก และทำให้ผู้ใช้ Windows XP หลายคนตัดสินใจที่จะอัพเกรดมาใช้ Windows 7



 Windows 8

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2012 มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อินเทอร์เฟซถูกเปลี่ยนให้เป็นแบบเรียบสไตล์ Metro ปุ่ม Start และ Start Menu หายไป แทนที่ด้วย Start Screen แบบเต็มจอ การใช้งานถูกแบ่งออกเป็นโหมด Desktop ปกติเหมือน Windows รุ่นก่อน ๆ กับโหมด Metro สำหรับใช้งานแอพพลิเคชั่นบน Windows Store แบบเต็มจอ รองรับการใช้งานระบบสัมผัสเต็มรูปแบบ มีผู้ใช้จำนวนหนึ่งที่ไม่ค่อยถูกใจกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและเลือกที่จะใช้ Windows 7 ต่อไป โดยในปี 2013 ไมโครซอฟท์ได้ออก Windows 8.1 ที่นำปุ่ม Start กลับมา พร้อมทั้งปรับปรุงระบบเล็กน้อย



 Windows 10

          เปิดตัวเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2014 เป็น Windows รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทางไมโครซอฟท์ได้ข้ามชื่อ Windows 9 ไป สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์ ฯลฯ อินเทอร์เฟซโดยรวมคล้ายกับ Windows 8 แต่โปรแกรมและแอพฯ ต่าง ๆ สามารถใช้งานได้ทั้งโหมด Desktop และโหมด Tablet ไม่แยกออกจากกันเหมือน Windows 8 อีกแล้ว พร้อมทั้งการกลับมาของ Start Menu สำหรับการใช้งานแบบโหมด Desktop โดยจะวางจำหน่ายในปี 2015

          เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะสำหรับ Windows ในแต่ละรุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีใครเกิดทันใช้รุ่นไหนกันบ้างไหมเอ่ย!? แต่นอกเหนือจาก Windows รุ่นที่กล่าวถึงแล้วนี้ ยังมี Windows รุ่นอื่น ๆ อีกมากมายที่หลายคนอาจไม่รู้จัก โดยส่วนใหญ่จะเป็น Windows ตระกูล NT และ Server อีกหลายรุ่น สำหรับใช้งานในระบบเครือข่ายขององค์กรต่าง ๆ 




PhotoMath คิดเลขอัจฉริยะด้วยการสแกนโจทย์บนกระดาษ


 



     PhotoMath แอพพลิเคชั่น คิดเลขอัจฉริยะ สามารถแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่อยู่บนหน้ากระดาษได้ เพียงแค่ใช้กล้องถ่ายภาพโจทย์เท่านั้น แอพฯ PhotoMath ก็จะทำการคำนวณหาคำตอบของโจทย์นั้น ๆ ให้ทันที และยังสามารถเลือกดูขั้นตอนวิธีการแก้โจทย์ได้อีกด้วย  ซึ่งมีประโยชน์ทั้งกับนักเรียนนักศึกษาในการเรียนวิธีทำโจทย์แบบต่าง ๆ รวมทั้งผู้ปกครองและอาจารย์ในการตรวจการบ้าน แต่ข้อจำกัดของแอพพลิเคชั่น นี้ก็คือสามารถใช้ได้กับโจทย์ที่พิมพ์อยู่บนกระดาษหรือหนังสือเท่านั้น แต่ไม่สามารถใช้กับโจทย์ที่เขียนด้วยลายมือได้นั่นเอง


    
รายละเอียดของแอพพลิเคชั่น PhotoMath


ชื่อ : PhotoMath
ราคา : ฟรี
หมวด : การศึกษา
โปรแกรมอัพเดทล่าสุด : วันที่ 25 ตุลาคม 2014
เวอร์ชั่นล่าสุด : 1.1.0
ขนาดโปรแกรม : 7.3MB
ภาษาที่รองรับ : English
ผู้ผลิตโปรแกรม : PhotoPay Ltd.
เครื่องที่รองรับโปรแกรม : iPhone, iPod touch และ iPad
เฟิร์มแวร์ที่รองรับ : iOS 7.0 ขึ้นไป

     หากท่านใดสนใจสามารถดาวน์โหลดฟรีที่ App Store สำหรับเวอร์ชั่นแอนดรอยด์จะปล่อยให้โหลดในช่วงต้นปี 2015 ค่ะ



F1 ถึง F12 รู้ไหมว่ามันทำอะไรได้บ้าง?

คีย์ที่กล่าวมาส่วนมากเราจะเรียนกมันว่า "ฟังก์ชันคีย์"  F1 ถึง F12 

อาจมีความหลากหลายของการใช้งานที่แตกต่างกัน

 ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่ติดตั้งและโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่เปิดอยู่ซึ่ง

จะเปลี่ยนวิธีการของแต่ละคีย์เหล่านี้


ยังรวมถึงการใช้งานฟังก์ชันคีย์รวมดับคีย์ ALT หรือ CTRL เช่นผู้ใช้ Microsoft Windows สามารถกด ALT + F4 เพื่อปิดโปรแกรมที่ใช้งานอยู่
ด้านล่างเป็นรายการบางส่วนของการทำงานของคีย์ฟังก์ชั่นในคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Microsoft Windows แต่จะไม่ใช่ทุกโปรแกรมที่สนับสนุนฟังก์ชันคีย์


F1
  • มักจะใช้เป็นคีย์ช่วยเกือบทุกโปรแกรมจะเปิดหน้าจอ
  • ป้อนการตั้งค่า CMOS
  • Windows Key + F1 จะเปิดตัวช่วยของ Microsoft Windows
  • เปิดบานหน้าต่างงาน

F2
  • ใน Windows จะใช้ในการเปลี่ยนชื่อไอคอนหรือไฟล์
  • Alt + Ctrl + F2 เปิดเอกสารใหม่ในโปรแกรม Microsoft Word .
  • Ctrl + F2 จะแสดงหน้าต่างตัวอย่างก่อนพิมพ์ใน Microsoft Word
  • เข้าสู่การป้อนการตั้งค่า CMOS หรือ Bios

F3
  • เปิดคุณลักษณะการค้นหาในหลายๆโปรแกรมรวมถึง Microsoft Windows
  • ใน MS - DOS หรือ Windows ของบรรทัดคำสั่ง F3 จะทำซ้ำคำสั่งสุดท้าย
  • Shift + F3 จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อความใน Microsoft Word

F4
  • เปิดพบหน้าต่าง
  • ทำซ้ำการกระทำล่าสุด ( Word 2000 ขึ้นไป )
  • Alt + F4 จะปิดโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ใน Microsoft Windows
  • Ctrl + F4 จะปิดหน้าต่างที่เปิดอยู่ในหน้าต่างที่ใช้งานในปัจจุบันใน Microsoft Windows

F5
  • ในทุกเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ต F5 จะรีเฟรชหรือโหลดหน้าเว็บหรือหน้าต่างเอกสาร
  • เปิดหน้าค้นหา แทนที่ และไปที่หน้าต่างใน Microsoft Word
  • เริ่มสไลด์โชว์ใน PowerPoint

F6
  • ย้ายเคอร์เซอร์ไปที่ Address bar ใน Internet Explorerและ Mozilla Firefox .
  • Ctrl + Shift + F6 เปิดไปยังเอกสารอื่น ๆ ใน Microsoft Word
F7
  • ปกติจะใช้เพื่อตรวจสอบการสะกดและไวยากรณ์ตรวจสอบเอกสารในโปรแกรม Microsoft เช่น Microsoft Word, Outlook, ฯลฯ
  • Shift + F7 ทำงานตรวจสอบบนคำที่ไฮไลต์
  • เปิดการใช้งานเลือนหน้าต่างด้วยปุ่มลูกศรบนคีย์บอร์ดใน Mozilla Firefox

F8
  • แป้นฟังก์ชันที่ใช้ในการเข้าสู่เมนูเริ่มต้น Windows, นิยมใช้ในการเข้าถึง Windows แบบ Safe Mode .

F9
  • เปิดแถบเครื่องมือวัดใน Quark 5.0

F10
  • ใน Microsoft Windows เปิดใช้งานแถบเมนูของโปรแกรมที่เปิดอยู่
  • Shift + F10 เป็นเช่นเดียวกับการคลิกขวาบนไอคอนที่ไฮไลต์ไฟล์หรือการเชื่อมโยงอินเทอร์เน็ต
  • การเข้าถึงการกู้คืนพาร์ทิชันที่ซ่อนอยู่ ของ HP และ Sony คอมพิวเตอร์
  • ป้อนการตั้งค่า CMOS .

F11
  • โหมดเต็มหน้าจอในเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ต
  • CTRL + F11 การเข้าถึง การกู้คืนพาร์ทิชันที่ซ่อนอยู่ในคอมพิวเตอร์ของ Dell
  • การเข้าถึงการกู้คืนพาร์ทิชันที่ซ่อนอยู่บน eMachines, Gateway, และคอมพิวเตอร์ Lenovo

F12
  • เปิดหน้าที่ทำการบันทึกใน Microsoft Word
  • SHIFT + F12 บันทึกเอกสาร Microsoft Word
  • Ctrl + Shift + F12 พิมพ์เอกสารใน Microsoft Word

ปลาย เกร็ดเล็กๆเครื่องคอมพิวเตอร์ไอบีเอ็มก่อนหน้านี้ยังมี F13 -- F24 บนแป้นพิมพ์ แต่เนื่องจากแป้นพิมพ์เหล่านี้ไม่มีการใช้งานจึงได้ถูกนำออกไป เอาไปประดับความรู้กันจะได้รู้ว่า ไอ้ปุ่มพวกนี้ที่เราไม่เคยใช้งานความจริงมันใช้ได้ดีเสียด้วย นี่แค่บางส่วนถ้า ว่าง จะหาแบบเต็ม ๆ มาให้ค่ะ

ขอบคุณเว็ป :::http://www.superict.com/component/viewrecord.php?id=674&section_id=1&catagory_id=1




วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เมื่อพนักงานโรงแรมอาจถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์

หุ่นยนต์ Room Service ดังกล่าวมีชื่อว่า “A.L.O. Botlr” หรือ Robot Butler (หุ่นยนต์พ่อบ้าน)  สูงประมาณ 3 ฟุต  หนักประมาณ 100 ปอนด์  ลายบนตัวหุ่นยนต์แอบมีกิมมิคด้วยการเพ้นท์รูปโบว์ไว้เลียนแบบยูนิฟอร์ม พนักงาน Room Service  ตรงหัวของหุ่นยนต์เป็นหน้าจอ Tablet ขนาด 7 นิ้ว  สำหรับให้ลูกค้าและพนักงานโรงแรมกดสั่งการได้  พนักงานโรงแรมมีหน้าที่แค่นำอาหารใส่เข้าไปในช่องในตัวหุ่นยนต์แล้วกดเลข ห้อง  เจ้าหุ่นยนต์จะนำอาหารไปเสริ์ฟลูกค้าได้ทันที  โดยเมื่อถึงหน้าห้องลูกค้าแล้วมันก็จะโทรศัพท์เข้าไปหาลูกค้าเพื่อเรียกให้ ออกมารับอาหารที่สั่งไว้  และถ้าหากลูกค้าอยากจะให้รางวัลกับหุ่นยนต์ก็สาามารถทวีตโดยติด Hashtag  #meetbotlr แทนการให้ทิปเป็นเงินได้


หน้าเว็บ